ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทุกวันนี้ปัญหาเรื่องการนอนหลับ ได้เข้ามารบกวนการดำเนินชีวิตของใครหลาย ๆ คน ทำให้เกิดผลกระทบต่อการทำงาน และสุขภาพในด้านต่าง ๆ ทั้งนี้ปัญหาเรื่องการนอนดังกล่าวอาจสอดคล้องกับพฤติกรรมที่เราได้ทำก่อนเข้านอน วันนี้เราจึงอยากให้ทุกคนลองสังเกตพฤติกรรมของตัวเองดูว่า เข้าข่าย “พฤติกรรมที่ควรเลิกทำก่อนนอน” หรือไม่ ตามไปดูกันได้เลยค่ะ
การเล่นโทรศัพท์มือถือ
แน่นอนในทุกวันนี้พฤติกรรมการใช้โซเชียลมีเดียกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเราไปแล้ว แต่เราขอเตือนว่าในช่วงเวลาก่อนนอนหรือตอนที่เราปิดไฟกำลังเข้านอนแล้ว ไม่ควรใช้อุปกรณ์เหล่านี้อีก เพราะการแจ้งเตือนต่าง ๆ จะรบกวนช่วงเวลาเคลิ้มหลับของเรา ทำให้เราไม่สามารถข่มตาหลับได้ หรือลองจิตนาการว่าคุณได้หลับไปแล้ว แต่ต้องตื่นขึ้นกลางดึกเพราะมีเสียงแจ้งเตือนดังมาจากมือถือ ดังนั้นคำแนะนำของเราคือควรหยุดการเล่นมือถือก่อนเข้านอนประมาณ 30 นาที และปิดการแจ้งเตือนต่าง ๆ เพื่อที่คุณจะได้หลับโดยไม่มีอะไรมารบกวน
การออกกำลังกายอย่างหนัก
การออกกำลังกายเป็นเรื่องที่ดี แต่การออกกำลังกายอย่างหนักก่อนนอนนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ดีต่อร่างกายแน่นอน เพราะจะทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น ร่างกายต้องทำงานอย่างหนัก และอยู่ในสภาวะตื่นตัว กว่าร่างกายจะเข้าสู่โหมดพักผ่อนนั้นจะค่อนข้างกินเวลา ทางที่ดีควรออกกำลังกายก่อนเวลานอนปกติประมาณ 3 ชั่วโมง
ไม่อาบน้ำก่อนนอน
เมื่อร่างกายต้องเผชิญกับมลภาวะต่าง ๆ มาตลอดทั้งวัน และยังมีคราบเหงื่อไคลรวมถึงเชื้อโรค ทางทีดีเราควรชำระล้างร่างกายก่อนนอน เพื่อทำให้รู้สึกสบายตัว และไม่ทำให้เตียงของเรากลายเป็นแหล่งบ่มเพาะเชื้อโรค นอกจากนี้การอาบน้ำอุ่นก่อนนอนจะทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายและรู้สึกสบายตัวมากขึ้น ทั้งนี้ควรเลือกอาบน้ำ/แช่น้ำอุ่นก่อนนอนอย่างน้อย 1-2 ชั่วโมง เพราะการอาบน้ำอุ่นและเข้านอนทันที อาจทำให้คุณนอนไม่หลับได้ เพราะน้ำอุ่นจะไปช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ทำให้ร่างกายตื่นตัวจนไม่สามารถข่มตานอนได้นั่นเอง
ดูหนัง/เล่นเกมส์/อ่านหนังสือ
กิจกรรมต่าง ๆ ที่กล่าวมาข้างต้น ถือว่าเป็นกิจกรรมในยามพักผ่อนที่ดี แต่ควรเลือกเนื้อหาของหนัง, หนังสือ หรือประเภทของเกมส์ที่เล่นสักนิด เพราะการดูหนัง อ่านหนังสือ หรือเล่นเกมส์ที่มีเนื้อหาตึงเครียดเกินไป อาจส่งผลให้คุณนอนหลับไม่สนิทได้ ยกตัวอย่างเช่นคุณเลือกดูหนังสยองขวัญก่อนนอน และคุณเป็นคนขวัญอ่อนอยู่แล้ว แน่นอนภายในคืนนั้นคุณอาจจะตกอยู่ในสภาวะหวาดผวาทั้งคืน จนทำให้เกิดปัญหาการนอนได้นั่นเอง
ดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีน หลัง 15.00 น.
ไม่ว่าจะเป็น ชา กาแฟ หรือแม้แต่โกโก้ ล้วนมีส่วนผสมของคาเฟอีนทั้งสิ้น ซึ่งเป็นสารที่ส่งผลให้ร่างกายหลั่งสารอะดรีนาลีน เกิดการตื่นตัว และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของสมอง เครื่องดื่มเหล่านี้เหมาะแก่การดื่มในช่วงเช้า หรือช่วงบ่ายหลังอาหารเที่ยง เพื่อทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น และพร้อมทำงานได้ต่อไป แต่หากเราดื่มน้ำชากาแฟในช่วงหลังบ่าย 3 ไปแล้วหรือดื่มในเวลาใกล้เข้านอน อาจทำให้เกิดอาหาร “ตาค้าง” ในช่วงเวลากลางคืนได้ ทำให้คุณนอนหลับได้ยากขึ้น และส่งผลกระทบถึงกิจวัตรการนอนของคุณนั่นเอง
หากสำรวจตัวเองดูแล้วพบว่ามีหนึ่งใน “พฤติกรรมที่ควรเลิกทำก่อนนอน” ควรเริ่มหยุดพฤติกรรมเหล่านั้นเสียตั้งแต่เนิ่น ๆ ก่อนพฤติกรรมดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อการนอนหลับในระยะยาว หรือหากยังมีปัญหาเกี่ยวกับการนอนอยู่ อาจลองปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อทำการรักษาอย่างถูกต้องตามวิธีการต่อไปค่ะ